ทีมเวิร์คสำคัญที่สุดจริงเหรอ ???

     Hero Dota กับทีมเวิร์ค เราอาจจะเคยเห็นผู้เล่นที่มีฝีมือโดดเด่นกว่าผู้เล่นคนอื่นในทีมแล้วพาทีมไปสู่ชัยชนะ แต่นั่นเป็นแค่ส่วนประกอบบางส่วนในการที่จะเล่นเพื่อให้ได้รับชัยชนะ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเล่น Dota ก็คือการเล่นเป็นระบบทีม การรู้หน้าที่ของฮีโร่แต่ละตัว และจะต้องทำตามหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ถ้าเกิดว่ามีผู้เล่นซักคนที่บกพร่องในหน้าที่ อาจทำให้ทีมที่วางแผนกันมาเป็นอย่างดีนั้นเกิดความไม่ลงตัวในการเล่น ทีมเวิร์คไม่เกิดขึ้นในทีม และอาจนำทีมไปสู่การพ่ายแพ้ในที่สุด



ทีมเวิร์คสำคัญแค่ไหน
     เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลยในการเล่น Dota ที่จะนำไปสู่ชัยชนะ เพราะถ้าเกิดการประสานงานกันที่ดีระหว่างผู้เล่นในทีมเดียวกันก็จะทำให้เกิดจังหวะที่ดีในการต่อสู้ การรู้หน้าที่ว่าใครต้องทำอะไรก็ถือว่าเป็นทีมเวิร์คอย่างหนึ่งเหมือนกันเพราะถ้าทำหน้าที่นั้นได้อย่างดีแล้วองประกอบรวมของทีมก็จะออกมาดีทำให้มีเปอร์เซ็นในการชนะนั้นมีสูงมากขึ้นตามไปด้วย บางคนที่ไม่เห็นความสำคัญของทีมเวิร์ค กะจะลุยเดี่ยวถ้าคิดแบบนั้นคุณก็คิดผิดแล้ว เพราะถ้าไปลุยเดี่ยวแบบไม่มีเพื่อนคอยสนับสนุนแบบนั้นคุณก็อาจจะตายฟรีทำให้ศัตรูได้ทั้งเงินทั้งเลเวล ความลำบากก็จะมาตกกับเพื่อนในทีม

โหดคนเดียวก็ชนะได้จริงเหรอ
     จริงครับ แต่เกิดขึ้นในบางเกมเท่านั้น เพราะถึงคุณโหดอยู่คนเดียว ของเยอะอยู่คนเดียว เลเวลเยออยู่คนเดียว แต่เพื่อนในทีมที่เหลือยังได้อะไรไม่มากนัก พอไปเจอกับทีมศัตรูที่มีความพร้อมมากกว่า ถึงคุณจะโหดสามารถฆ่าศัตรูได้ แต่เพื่อนในทีมคุณก็โดนเก็บไปเกือบหมดแล้วทีมศัตรูเหลือมากกว่าคุณก็ต้องถอยกลับมาตั้งหลักอยู่ดี และนั่นจะเป็นจังหวะในการดันป้อมของศัตรู โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าทั้งทีมมีตัวเกิดอยู่ซักหนึ่งตัวและทีมตรงข้ามก็รู้แล้วว่าถ้าเจอกันในเวลาบวกตัวไหนคือตัวอันตรายที่สุด ทีมศัตรูก็อาจจะช่วยกันยิงสกิลมาที่ตัวอันตรายที่สุดก่อนก็ได้ครับ และถ้าตัวที่อันตรายที่สุดถูกเก็บไปแลว คราวนี้ทีมจะมีไม้เด็ดอะไรเหลืออยู่ละครับ ต้องให้ความสำคัญกับทีมเป็นที่หนึ่งครับ เพื่อที่จะได้ไปสู่ชัยชนะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

ภาษา Dota รู้ไว้จะได้ไม่งง

     สำหรับคนที่ยังไม่รู้เคยสงสัยกันมั้ยว่าเหล่า Hero dota เค้าคุยอะไรกัน ถ้าเราไม่รู้ภาษาของคนที่เล่นเกม dota เราก็จะไม่เข้าใจเลยว่าทีมเราต้องการอะไร จะสื่อสารอะไรกับเรา ภาษา dota เป็นภาษาที่คิดค้นโดยผู้เล่นดอทเอและมีการแพร่หลายของภาษาทำให้เป็นที่นิยม



หนี ถอยกลับ
All การนัดรวมกันของคนในทีม ณ ที่ใดที่หนึ่งของแมพ เพื่อที่จะทำการเตรียมจู่โจมศัตรู หรือดันป้อม
Atk การโจมตีเพื่อให้ศัตรูได้รับความเสียหาย
Dis การหายไปของศัตรู โดยบางครั้งอาจจะบอกเป็น L Dis แปลว่าศัตรูที่อยู่ในเลนซ้ายหายไป
L0 ศัตรูที่อยู่ในเลนซ้ายหายไป ให้เพื่อนที่อยู่ในเลนอื่นระวังตัว
C0 ศัตรูที่อยู่ในเลนกลางได้หายไป ให้เพื่อนที่อยู่ในเลนอื่นระวังตัว
R0 ศัตรูที่อยู่ในเลนขวาหายไป ให้เพื่อนที่อยู่ในเลนอื่นระวังตัว
Farm กราเข้าป่าฆ่าครีปเพื่อเก็บเงิน หรือห๋ษครีปในเลนเพื่อเก็บเงิน หลีกเลี่ยงการปะทะกับศัตรู
Rang การโจมตีระยะไกล
Melee การโจมตีระยะประชิด
Sub Hero Dota ที่มีหน้าที่คอยให้การสนับสนุนเพื่อน เช่น ซื้อไก่ ออก ward เป็นต้น
Tank Hero Dota ที่มีความถึกตายยากเป็นตัวชนให้กับทีม
Late Hero Dota ที่จะโหดในช่วงท้ายเกม
Ganker Hero Dota ที่จะคอยไล่ฆ่าศัตรูตามเลนอื่น ปั่นป่วนทีมศัตรู ทำให้ศัตรูเล่นได้ยาก
Last shot การโจมตีครั้งสุดท้ายทำให้ศัตรูตายในทันที
Creep ตัวละครในเกมที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราฆ่าเราก็จะได้เลเวล และเงิน
Tower ป้อมปราการที่จะอยู่ตามเลน เลนละ 3 ป้อม และจะอยู่หน้าฐานใหญ่อีก 2 ป้อม
Rune ไอเท็มพิเศษที่อยู่กลางแม่น้ำ
MP มานา
HP เลือด
AOE ระยะที่จะเกิดเอฟเฟค
Deny การโจมตีครีปหรือฮีโร่ฝั่งเรา เมื่อตายเราจะไม่ได้ตัง
Lag การกระตุกระหว่างเล่นเกม
Delay การหน่วงของเกม

และยังมีอีกหลายคำที่ยังไม่ได้ระบุมา นี่เป็นเพียงบางส่วนที่คุณจะเจอเวลาเล่นเกม

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ


ผลการแข่ง Neolution E-Sport DOTA2 Tournament เดือน พฤศจิกายน 2556

ผลการแข่ง


   
     Everlast.GameFilling[TH]  ชนะ  1st.vn[VN]  ( 2 – 0 )
แชมตกเป็นของ Everlast.GameFilling จากประเทศไทย ต้องบอกว่าขอแสดงความยินดีด้วยครับ

Yaphets ตำนานคนที่เล่น Nevermore เก่งที่สุดในโลก กลับคืนสู่วงการแล้ว

Yaphets ตำนานที่กลับมา

     Yaphets เขากลับมาเล่น Dota2 อีกครั้งให้กับทีม TongFu รุ่นที่ 3 และมีสมาชิกคนอื่นๆอีกคือ LongDD, Kabu, SYDM และ zExBinGo  ซึ่งยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศเกาหลีใต้ ในการแข่งขันรายการ Nexon Invitational Super Match

  
     Yaphets ได้รับการยอมรับจากผู้เล่น dota จากลีกระดับโลกมาแล้วว่าเป็นผู้เล่นที่เล่น Nevermore ได้เก่งที่สุดคนนึง และเป็นผู้เล่น Dota ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเท่าที่ Dota เคยมีมา
     Yaphets เป็นคนจีนแท้ๆ เคยเล่นอยู่ในทีมดังๆหลายทีม และเคยอยู่ในทีม Nirvana.cn ที่เป็นทีมที่เอาชนะสุดยอมทีมอย่าง EHOME ลงได้ทำให้ได้รับแชมโลกรายการ World DotA Championship ในปี 2010 มาครอง

เขาคนนี้ได้สร้างตำนานไว้ในวงการ Dota และเมื่อตำนานย้อนคืนสู่วงการจะทำให้วงการDota เป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม
   

Cooldown ตัวแปรสำคัญ สู่กุญแจแห่งชัยชนะ

ในการเล่นเกม Dota หรือการที่จะเลือกเล่น Hero Dota สิ่งสำคัญนอกจากเทคนิคระดับสูงแล้ว เรื่องการใช้งานหรือการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคพื้นฐานก็ถือว่าสำคัญมากเหมือนกัน เพราะมันจะเป็นตัวช่วยในการคิดหรือตัดสินใจในแนวการเล่นของคุณได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไปแล้วอย่างค่า Cooldown ของสกิลต่างๆนั่นเองเรามาลองดูกันว่าความจริงแล้วค่านี้มีความสำคัญต่อการเล่นมากแค่ไหน



ความสำคัญของ Cooldown
     ค่า Cooldown คืือตัวที่บอกถึงระยะเวลาการใช้สกิลได้อีกครั้งหลังจากที่่ได้ใช้สกิลนั้นไปแล้วเกิดดีเลย์ขึ้นที่สกิล ผลของค่านี้ทำให้เราไม่สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นได้บ่อยกับสกิลอัลติเมตทั้งหลายที่มักมีค่านี้นานเป็นนาที ความจริงแล้วนี่เป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย เพราะมันจะเป็นตัวเอาเข้ามาคิดในการเล่นจริงของเรามากทีเดียว

การใช้งาน Cooldown ของสกิลให้ดี จะส่งผลต่อการคอมโบและจังหวะใช้สกิลที่เหมาะสมด้วย

     ยกตัวอย่างเช่น สกิลที่มีความรุนแรงมากหรือมีผลเอฟเฟ็กต์สุดยอดแต่กลับมี Cooldown นานสุดๆ ทำให้การใช้งานแต่ละครั้งต้องระวังเพื่อให้ใช้สกิลได้ถูกต้อง แต่เมื่อเทียบกับบางสกิลที่มีผลต่างๆ ย่อยลงมาใช้งานได้ง่ายเพราะมี Cooldown น้อยกว่ามันจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นสกิล Pit of Malice ที่ผลไม่ดีเทียบเท่าแต่ใช้งานได้บ่อยว่า ทำให้สกิลนี้ถูกมองว่าน่าเลือกมาใช้แทนอยู่เหมือนกันOvergrowth ที่มี Cooldown นานและสกิล

การคอมโบสกิลไม่จำเป็นต้องกดลงต่อกันเสมอไป แต่ประยุกต์ใช้ให้ถูกจังหวะดีกว่า

เทคนิคการไล่ฆ่าโดยเรียนรู้จาก Cooldown
     ค่า Cooldown นั้นจะมีผลในการเล่นเกมของเรามากอย่างในจังหวะการเข้าโจมตีนั้น สกิลสตั้นอย่างสกิล Strom Bolt มีค่า Cooldown นานถึง 15 วินาทีและมีระยะแสดงผลที่ทำให้เป้าหมายสตั้นถึง 2 วินาที ดังนั้นหมายความว่าหลังจากการใช้งานไปแล้ว เป้าหมายจะมีเวลาหนี 13 วินาทีจนกว่าที่จะใช้สกิลนี้ได้อีกครั้งดังนั้นช่องว่างของสกิลที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การเล่นเราจำเป็นนต้องหาสกิลเข้ามาคอมโบเสริมเสริมเข้าไปเพื่อลดช่องว่างลง เช่นถ้าคอมโบกับสกิลFissure ที่มี Cooldown และผลทำให้สตั้นนานพอๆกัน (คิดเป็น 2 วินาทีเพื่อมห้เข้าใจง่าย) เทคนิคในการใช้งาน Cooldown คือเราอาจไม่จำเป็นต้องกดสตั้นแบบต่อเนื่องทันที แต่เว้นว่างซํกครู่ก่อนจะซ้ำ ผลที่เกิดจะคิดได้ดังนี้

ตัวอย่างที่ 1 Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาที มีเวลาหนี 13 วินาทีนั้นจึงใช้ได้อีกครั้ง
ตัวอย่างที่ 2 Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาทีต่อด้วย  Firssure ติดสตั้นราว 2 วินาทีศัตรูจะมีเวลาหนี 11 วินาทีกว่าจะใช้ได้อีกครั้ง
ตัวอย่างที่ 3 Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาที ปล่อยให้หนี 3 วินาที ต่อด้วย  Fissure ติดสตั้นราว 2 วินาที ศัตรูจะมีเวลาหนี 8 วินาที กว่าจะใช้ได้อีกครั้ง

     แนวคิดจากตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าในตัวอย่างที่สองนั้น จะให้ผลช่วงว่างนานมากไปถึง 11 วินาที แต่เทคนิคที่จะเข้ามาลดโอกาสหนีตรงนี้ได้คือการใช้เทคนิคจากตัวอย่างที่ 3 โดยเราจะเห็นว่าถ้ายอมปล่อยให้ศัตรูดิ้นรนซักนิด แล้วค่อยคอมโบสกิล จะทำให้เหลือเวลาหนีในช่วงหลังน้อยกว่า และในเวลาที่เราเว้นว่างไว้นั้นถ้ากะระยะได้ดีๆ ไม่นานมากเกินไปก็เป็นเรื่องยากที่จะหลบหนีได้ และในกรณีนี้จะใช้งานได้ดีกับพวกที่ไม่มีสกิลหายตัวหรือ Blink เพราะฮีโร่พวกนี้จะหลบได้ไวมาก แต่ใช้งานได้ดีกับพวกที่มีสกิลหยุดสวนกลับเหมือนกัน เพราะช่วงเวเลาที่เราเว้นว่างจากตัวอย่างที่ 3 จะเป็นการบีบให้ศัตรูใช้สกิลออกมาก่อนจะโดนคอมโบซ้ำอีกครั้ง ซึ่งช่วยลดโอกาสหนีได้ดีมากทีเดียว

ฮีโร่บางตัวอย่าง Tinker ก็สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องแคร์ค่า Cooldown สกิล

     สำหรับค่า Cooldown นั้นยังมีผลและความสำเร็จต่อการเล่นอีกมากมายแต่ครั้งนี้เราก็ขอฝากให้นำไปเป็นแนวคิดในการเล่นกันเท่านี้ก่อน ลองนำไปคิดวิเคราะห์ในสไตล์การเล่นของคุณดูครับ  ไม่แน่คุณอาจจะสร้างชุดคอมโบหรือจังหวะการลุยใหม่ๆขึ้นมาเองได้

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

เตรียมพร้อมเปิดศึก Dota2 ส่งท้ายปีรายการ TGPL DOTA 2 TOURNAMENT PRESENTED BY STEELSERIES

เตรียมตัวให้พร้อมกับรายการใหญ่ท้ายปีที่จะจัดการแข่งขันชิงเงินรางวัลกว่า 100,000 บาท กับรายการที่มีชื่อว่า TGPL DOTA 2 TOURNAMENT PRESENTED BY STEELSERIES หลังจากที่มีการแข่งขัดมา 2 เดือนเต็มเพื่อคัดเลือกหา 8 ทีมสุดท้ายที่จะเข้าไปดวลกันในรอบ  Lan Final ที่ Shooter E-Sports Cafe ซอยเสือใหญ่แยก 11 (ซอยรัชดา 36)



การแข่งขันรายการ TGPL Dota 2 Tournament presented by SteelSeries  จะแบ่งได้ออกเป็น 3 ช่วงได้แก่

TGPL Dota 2 Tournament presented by SteelSeries   รอบ  Online Qualifiers  รอบที่ 1

เปิดรับสมัคร : 15 พ.ย. 56
เริ่มแข่งขัน : 16 – 24 พ.ย. 56

TGPL Dota 2 Tournament presented by SteelSeries   รอบ  Online Qualifiers  รอบที่  2

เปิดรับสมัคร :  2 – 6 ธ.ค. 56
เริ่มแข่งขัน : 7 – 15 ธ.ค 56
สำหรับรอบ Online Qualifiers นั้นแบ่งเป็น 2 รอบ ซึ่งแต่ละรอบก็จะคัดเอา 4 ทีม รวมเป็น 8 ทีมที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ LAN Final

TGPL Dota 2 Tournament presented by SteelSeries  รอบ LAN Final
ซึ่งรอบนี้จะเป็นรอบที่คัดเอา 8 ทีมจากรอบ Online Qualifiers  ทั้งรอบที่ 1 และ รอบ ที่ 8 มาแข่งขันกันในรอบ รอบ LAN Final

แข่งขัน :  เสาร์ 21 ธ.ค. 56
ที่ร้าน :  Shooter E-Sports Cafe ซอยเสือใหญ่แยก 11 (ซอยรัชดา 36)

นับว่าเป็นรายการใหญ่ท้ายปีที่หลายคนรอคอยที่จะได้ชมฝีมือและรวดรายการเล่นของทั้ง 8 ทีมที่ผ่านเข้ามาสู่รอบ LAN Final ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 21 ธันวาคม 56

แนะนำมุมมองพื้นฐานเพื่อ Ganker มือใหม่

เวลาเราาเล่น Dota นั้นสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำกันทุกเกมก็คือการจัดทีมเพื่อออกล่าฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ช่วงต้นเกมหรือที่เรียกกันว่า Ganker มันคือการเล่นที่จะเข้าไปป่วนหรือตัดโอกาสเกิดจนเก่งของฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังมีผลต่อการคว้าชัยชนะของทีม และเพิ่มความง่ายในการ้ล่นฮีโร่ตัวอื่นในทีมด้วย ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงขอแนะแนวทางและมุมมองในการเล่น Ganker ที่ดีมาให้ลองนำไปใช้กัน




การเลือกฮีโร่สำหรับสาย Ganker
     ก่อนเริ่มเล่นนั้นต้องบอกว่าฮีโร่ทุกตัวภายในเกมสามารถเล่น Ganker ได้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายควมาว่าทุกตัวจะทำได้ดีเหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นถ้าคิดจะเล่นให้ดีเราก็จำเป็นจะต้องเลือกว่าควรจะหาฮีโร่แบบไหนสำหรับการเล่น Ganker โดยจะมีมุมมองในการเลือก เช่น การเลือกฮีโร่ที่มีสกิลหยุดได้ดีหรือนาน  การเลือกฮีโร่พวกสกิลโจมตีหนักๆตั้งแต่ต้นเกม การเลือกฮีโร่ที่เคลื่อนไหวเร็วและไล่ตามได้ดี และสุดท้ายคือการเอาฮีโร่ที่เกิดยากมากๆ มาพ่วงเข้าไปเพื่อให้มีโอกาสเก็บเลเวลเก็บเงินได้มากขึ้น

ส่วนใหญ่จะเลือกพวกฮีโร่ Int มานำหรือพวกที่มีสกิลไม้ตายหนักๆทั้งหลาย

อย่ากองกันเป็นกลุ่มหรือตามติดกันเวลารุก
     เวลาเข้าโจมตีผู้เล่นหลายคนชอบเดินกองๆ ติดๆ กันเข้าไปหาเป้าหมายซึ่งนั่นไม่ใช่การเข้าทำที่ถูกต้อง เราควรจะมีระยะและมองดูเส้นทางโอกาสการหนีของศัตรูและอ้อมไปดักเอาไว้บ้าง เพราะถ้าศํตรูสวนกลับได้หรือได้รับการช่วยเหลือจากทีมศัตรูเอง เราจะได้ไม่โดนสกิลอัดเข้ามาพร้อมๆกันทั้งหมด ซึ่งนั่นจะทำให้ศํตรูรับมือได้ง่ายและหลบหนีได้ง่ายด้วย ยกตัวอย่าง เวลาจะเข้าไปฆ่าศัตรูที่เฝ้าป้อมอยู่ ตัวหนึ่งควรเข้าจากด้านหน้าตรงๆ เพื่อกดดันศัตรู ส่วนอีกตัวหนึ่งอ้อมเข้ามาประกบจากด้านหลังจะทำให้โอกาสหนีแทบไม่มีและโอกาสฆ่าสำเร็จสูงกว่า

พยายามอย่าอยู่ติดๆกัน ทิ้งระยะหรือแอบอยู่ตามมุมต้นไม้เพื่อดักเวลาศัตรูหนีได้

การเลือกฮีโร่ที่จะฆ่าให้เหมาะสม
     เราควรจะดูว่าฮีโร่หรือกำลังสกิลที่เรามีนั้นสามารถทำได้ประมณไหน และมีโอกาสจะฆ่าฮีโร่ปนะเภทไหนได้มากที่สุดก็ควรจะเลือกฮีโร่ประเภทนั้น เช่น การที่เราจะเข้าไป Ganker ฮีโร่อึดๆอย่าง Doom Bringer นั้นนอกจากจะเสียเวลาในการโจมตีแล้วอาจจะต้องเสีย MP เพื่อใช้สกิลมากด้วย ในมุมกลับกันถ้าเลือกพวกตัวบางๆอย่าง Drow Ranger ที่ไม่ค่อยมีสกิลป้องกันตัว โอกาสสำเร็จจะมากกว่า แต่ถ้าเราคิดว่ากำลังของทีมไม่น่าจะเพียงพอที่จะฆ่าได้ ก็อาจจะอออกไอเท็มมาเสริมเติมส่วนที่ขาดไป แต่โดยส่วนใหญ่การเล่น Ganker จะนิยมเข้าไปฆ่าในเลนที่มีศัตรูเฝ้าอยู่ก่อนแล้วโอกาสสำเร็จจะมากขึ้น หรือการรอให้ศัตรูออกมาจากหน้าป้อมให้มากๆ โอกาสจะหลบหนีก็น้อยลงด้วย

ถ้าเรามีสกิลหยุดศัตรูได้นานๆ ส่วนใหญ่จะไล่ฆ่าได้แทบทุกตัว ยกเว้นพวกที่อึดมากๆเพราะจะเสียเวลาโจมตีนานเกินไป

     นี่เป็นเพียงมุมมองการคิดเวลาที่เราจะเล่นแบบ Ganker ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะในเกมจริงๆจะมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนที่จะเข้าทำ เช่น ศัตรูมีสกิลอะไรสวนกลับได้บ้าง หรือเมื่อเราฆ่าไปแล้วจะมีโอกาสหนีออกมาแบบไม่ตายไปด้วยหรือเปล่า และอีกอย่างที่ต้องใช้การตัดสินใจที่ดีของตัวผู้เล่นเอง


ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

โหดพันธุ์แท้ก็อาจแพ้ระยะทางจริงหรือ ???

เราทราบกันดีว่าฮีโร่แต่ละตัวหรือแต่ละสายนั้นมีระยะการโจมตีที่ไม่เท่ากัน ทำให้เราสามารถแบบพวกมันออกเป็นสองประเภทคือพวก Melee และ Range โดเราจะมาเปิดประเด็นเรื่องน่ารู้กันว่าระยะการโจมตีของฮีโร่นั้นมีผลต่อการเล่นมากแค่ไหน และจริงหรอไม่ที่พวกโจมตีไกลมักจะมีความได้เปรียบพวกระยะประชิด



Range จะได้เปรียบพวก Melee จริงหรือไม่ ?
     ถ้าเป็นคำถามนี้แล้วล่ะก็ เราคงต้องยอมรับว่าจริงแน่นอน เพราะพวกที่โจมตีระยะไกลก็หมายความว่า จะมีโอกาสได้ยิงโจมตีก่อน รวมถึงการได้ใช้สกิลก่อนด้วย ส่วนพวกโจมตีระยะประชิดส่วนใหญ่นั้นจะตกเป็นเป้าหมายก่อนและจะต้องรับความเสียหายชั่วขณะเพื่อเข้าประชิดให้ได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เราคงจะเคยเห็นมาบ่อยๆ ในการเล่นทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งพวกโจมตีระยะไกลนั้นสามารถนำจุดเด่นของพวกมันไปใช้เป็นเทคนิคการเล่นได้หลายด้าน เช่นการโจมตีใส่เป้าหมายจากที่สูง การยิงแล้ววิ่ง การโจมตีกดในเลนช่วงต้นเกม ซึ่งพวกโจมตีระยะไกลล้วนได้เปรียบทั้งนั้น

ฮีโร่บางตัวเป็น Melee แต่ก็อาจมีสกิล Range ที่ไกลสุดๆมาทดแทน เช่น Earthshaker
พวกโจมตีระยะไกลหลายตัวนอกจากยิงไกลแล้ว สกิลก็ยังไกลด้วย

     แต่สิ่งที่เข้ามาเป็นตัวแปรทำให้ตัวเกมเกิดความสมดุลในเรื่องของสกิล และค่าสเตตัสต่างๆ ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้พวกโจมตีระะยใกล้แม้จะเสียเปรียบ แต่ก็มักจะมีค่าสเตตัสที่สุงอย่างการมีค่าพลังป้องกันที่สูงมาก หรือมีสกิลเข้ามาเสริมให้ลบข้อเสียเวลาที่ต้องประชิดเป้าหมายทิ้งไปได้ และนั่นทำให้การเล่นพวกโจมตีระยะประชิดเมื่อใช้งานจริงไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกระยะไกลนัก แต่อีกสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือพื้นที่แสดงอำนาจในการโจมตี ซึง่ถ้าเรามองเป็น AoE แล้วพวกโจมตีระยะไกลล้วนทำได้ดีมากกว่า เช่น ถ้ามี Range 600 นั่นก็หมายความว่ามันสามารถยิงเป้าหมายได้ในระยะ 600 AoE รอบตัวเช่นกัน

สิ่งที่สายโจมตีระยะไกลควรจะทำ

     ถ้าหากพวกเขามีความได้เปรียบในเรื่องของการโจมตีแล้ว พวกเข้าควรเน้นด้านความเสียหายในการโจมตีและความเร็วแบบต่อเนื้อง เพาะยิ่งมีโอกาสรัวกระสุนออกก่อนได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ได้เปรียบฝฝ่ายตรงข้ามมากเท่านั้นยกตัวอย่าง Sniper ที่ทั้งยิงไกลและเร็วกว่าจะเข้าถึงตัวได้ก็เสียเลือดไปพอสมควร นั่นหมายความว่าถึงมันไม่ได้มีสกิลหยุดเป้าหมายแต่มันก็ได้ยิงฟรีแบบนิ่งๆเรียบร้อยแล้ว

พวก Melee หลายตัวเมื่อเข้าประชิดแล้วจะโหดชนิดที่รับมือได้ยาก
Range นั้นสามารถเป็นฝ่ายยิงก่อนสร้างความได้เปรียบเสมอ

     ส่วนเวลาที่เรากำลังจับฮีโร่สายประชิดอยู่นั้นให้พยายามวิเคราะห์ก่อนเลยว่าฮีโร่ตัวไหนที่คุณจะเข้าถึงได้ยาก และควรจะทำยังไงเพื่อให้เข้าถึงพวกมันได้ง่ายขึ้นโดยส่วนใหญ่แล้วเรามักเห็นฮีโร่พวกนี้เลือก Kelen's Daggerมาใช้งานเพื่อพุงเข้าโจมตีระยะประชิด แต่เส้นทางที่ดีและประชิดมากที่สุดก็คือการหาเพื่อนร่วมทีมตามสนับสนุน ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลที่เราจะเห็นพวกฮีโร่สายประชิดมีพวก Ganker ตามประกบคู่คอยเสริมอยู่เสมอ
     ในรายละเอียดนี้ถือเป็นเกร็ดความรู้ที่น่าทำวคามเข้าใจและศึกษาเอาไว้มาก เพราะมันจะมีผลและเกินในทุกการเล่นเกมของเรา ดังนั้นเวลาเลือกเล่นฮีโร่แต่ละเกมควรนึกเอาไว้เสมอว่า เราจะต้องมีทั้งพวกโจมตีระยะไกลและใกล้ผสมเข้าด้วยกันจึงจะได้ทีมบู้ที่ค่อนข้างลงตัวมากที่สุด

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

กลยุทธ์ใช้ครีป พวกมันเป็นมากกว่าตัวแจกเงิน!!!

ถ้าถามว่าอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเล่น Dota มากอย่างหนึ่งเลย หลายคนอาจมองข้ามเหล่าครีปไปเพราะเล็งเห็นว่าพวกมันเป็นแค่ตัวแจกเงินเก็บเลเวลเท่านั้น แต่ความจริงแล้วครีปแต่ละกลุ่มที่ออกมานั้นจะมีรูปแบบการทำงานตายตัวและสามารถนำมันออกมาใช้ประโยชน์ในการเล่นได้อย่างดีทีเดียวซึ่งคราวนี้จะมาแนะนำเรื่องนี้ให้ได้ทราบกัน



การโจมตีศัตรูในเลนเวลามีครีปอยู่
     สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นควรทราบเอาไว้ก็คือ หากโจมตีศัตรูในเลนขณะมีครีปอยู่ จะทำให้ครีปเหล่านั้นหันกลับมาโจมตีเราแทน และนั่นอาจจะไม่คุ้มเพราะในช่วงต้นๆเกม การโดนครีปรุมตีก็มีโอกาสได้รับความเสียหายสูงเหมือนกัน วิธีการก็คือให้พยายามเข้าทำจากบริเวณที่ไกลจากครีป อย่างเช่น ด้านข้างเลนเข้ามา จะทำให้โอกาสที่ครีปจะหันมาช่วยฮีโร่ศัตรูลดลงและไม่มีอะไรมาเกะกะเวลาโจมตีด้วย

ถ้ายิงฮีโร่ศัตรูพวกครีปจะหันมาโจมตีเราทันที อาจทำให้เราเสียเปรยีบได้
ควรเ้ขาทำจากระยะที่มองเห็นได้ยาก เพื่อป้องกันพวกครีปกวนใจและเพิ่มโอกาสฆ่าสำเร็จ

การดูว่าครีปมาถึงจุดไหนแล้ว
     เวลาที่เราจะเข้าโจมตีเป้าหมาย เราไม่ควรจะเลือกเข้าโจมตีเวลาที่ครีปของศัตรูนั้นออกมากันพอดีหรือเป็นช่วงที่ด้านเรานั้นมีจำนวนครีปน้อยกว่ามากๆเพราะจะทำให้จังหวะเข้าโจมตีเสียเปรียบ หรือแม้จะโจมตีฆ่าศัตรูก็ไม่มีครีปเข้ามาเสริมเอาไว้ดันเข้าทำลายป้อมต่อ เทคนิคง่ายๆ ก็คือให้พยายามมองไปที่มินิแมพของเรานั่นเอง เราอาจเห็นว่าครีปของเราออกมาถึงจุดไหนและจะทำให้เรารู้ด้วยว่าครีปของศัตรูออกมาถึงไหนแล้วเหมือนกัน จากการมองในด้านตรงกันข้ามนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการเลือกจังหวะเข้าโจมตีที่ได้เปรียบ และไม่วิ่งมั่วออกไปชนฝูงครีปให้เสียจังหวะได้
    อีกวิธีคือพยายามวิ่งเข้าหาเป้าหมายโดยพยายามไม่คลิ๊กโจมตีธรรมดา แต่อาจจะใใช้สกิลโจมตีแทน วิธีนี้จะไม่หันเหความสนใจของครีปในระยะได้เหมือนกัน แต่หากเป้นกรณีที่ตกเป็นฝ่ายโดนโจมตีแล้วล่ะก็ การก้มหน้าก้มตาถอยอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่ดีเสมอไป ให้พยายามถอยกลับแบบวิ่งชิดติดต้นไม้ริมทางเอาไว้เพราะจะช่วยให้ศํตรูมีโอกาสมองเห็นเราได้ยากขึ้น และไม่วิ่งไปชนครีปของเราเองที่กำลังออกมาอีกด้วย

เวลาดูตำแหน่งครีปก็ให้มองครีปฝ่ายของเราเทียบกับด้านตรงข้าม
ช่วงต้นเกมถ้าเรียนรู้ระยะของครีปได้มีโอกาสสูงที่จะทำลายป้อมได้สำเร็จ

การดันครีปเข้าทำลายป้อม
     เวลาดันครีปเข้าป้อมนั้นทำได้ไม่ยากแต่ต้องอาศัยฮีโร่ที่มีสกิลโจมตีแบบกลุ่มจะทำให้กวาดครีปของศัตรูทิ้งและครีปของฝ่ายเราเองก็จะยังไม่บาดเจ็บมาก แต่เทคนิคคือไม่จำเป็นต้องรีบกวาด เพราะครีปจะเดินหน้าต่อทันทีใช้วิธีปล่อยให้พวกมันหยุดโจมตีกันสักนิด รอครีปชุดต่อไปออกมาซักระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยกวาดครีปศัตรูก็ได้เวลาเข้าชนป้อมจะได้มีครีปเหลือมากๆหน่อย
     แม้จะเป็นเรื่องที่ผู้เล่นหลายคนทราบดี แต่ก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่มองข้ามพวกครีปไปและนึกเพียงว่ามันเป็นตัวแจกเงินเอาเป็นว่าลองนำเอาคำแนะนำเหล่านี้มาใช้ดูจะช่วยให้การทำเกมโดยเฉพาะต้นเกมนั้นเราจะหาจังหละได้ดีและเหมาะสมมากขึ้นด้วย

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Hero Dota "Bane Elemental" ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา

Hero dota Bane Elemental


ความเป็นมา
     Bane Elemental คือวิญญาณชั่วร้าายที่มีความสามารถในการเข้าไปในความฝันของศัตรู ทำให้ศัตรูฝันร้ายหากใครที่เคยได้รบกับเขาแล้วเขาจะตามเข้าไปในความฝัน ความโหดร้ายของเขาอยู่ที่การทำลายและกลืนกินความฝันของศัตรู สามารถทำให้ศัตรูหลับทั้งๆที่ไม่ง่วงและศัตรูก็จะตกอยู่ในการควบคุมของเขา และเขาก็จะลบเลือนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในหัวสมองของศัตรู

สกิล
Enfeeble
ลดสมรรถภาพในการต่อสู้ของเป้าหมายลงด้วยการลดพลังโจมตีและอัตราการฟื้น HP มีผลเป็นเวลา 20 วินาที
เลเวล 1 ลดพลังโจมตี 25 ดาเมจ
เลเวล 2 ลดพลังโจมตี 50 ดาเมจ
เลเวล 3 ลดพลังโจมตี 75 ดาเมจ
เลเวล 4 ลดพลังโจมตี 100 ดาเมจ

Brain Sap
ดูดกลืน HP ของเป้าหมายมาเติม HP ให้กับตัวเอง
ให้ค่า HP เต็มจำนวนกับ Atropos ไม่ว่าเป้าหมายจะเสีย HP ไปเท่าใด
เลเวล 1 ดูด 90 HP
เลเวล 2 ดูด 160 HP 
เลเวล 3 ดูด 230 HP
เลเวล 4 ดูด 300 Hp

Nightmare
ทำให้เป้าหมายหลับและตกอยู่ในฝันร้าย เป้าหมายจะเสีย HP 20 แต้มต่อวินาทีในภาวะนี้ หากมีคนโจมตีเป้าหมายที่ถูก Nightmare เป้าหมายจะตื่น และผู้โจมตีจะได้รับผลของ Nightmare แทน
วินาทีแรกของ Nightmare จะทำให้ยู้นิตนั้นไม่ได้รับการโจมตีใดๆ
เลเวล 1 แสดงผลนาน 4 วินาที
เลเวล 2 แสดงผลนาน 5 วินาที
เลเวล 3 แสดงผลนาน 6 วินาที
เลเวล 4 แสดงผลนาน 7 วินาที

Fiend's Grip
ใช้มนต์ดำพันธนาการเป้าหมาย ทำให้ไม่สามารถโจมตีหรือเคลื่อนที่ได้ และดูด Mana จากเป้าหมาย 5% มีผลนาน 5 วินาที
ใช้ Fiend's Grip ใส่ยูนิตที่ immune magic จะ disable และดูดมานามาได้ แต่ไม่สร้างความเสียหาย
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 100 ดาเมจ
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 155 ดาเมจ
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 215 ดาเมจ

ไอเท็มที่ควรออก
Power Treads (ขาไม้)
Aghanim's Scepter (คาทาฟ้า)
Force Staff (คาทาไถล)
Eul's Scepter of Divinity (คาทาพายุ)
Ghost Scepter (คาทาผี)
Necronomicon (หนังสือ)

แนวทางการเล่น
     การเล่น Bane Elemental ในช่วงแรกนั้น สกิล Brain Sap จะเป็นไม้เด็ดที่ทำให้เราสามารถรับมือศัตรูในเวลาโดนโจมตีหรือการใช้งานเพื่อกดดันศัตรูในเลน เพราะมันจะเติมค่าพลังชีวิตของเราขึ้นมาทันที และด้วยความรุนแรงของมันนั้นรุนแรงพอที่จะใช้ไล่ฆ่าศัตรูได้สบายๆ เวลาใช้งานแนะนำให้คอมโบกับสกิล Nightmare อีกครั้งก็ได้เพราะมันจะช่วยสร้างดาเมจได้เหมือนกัน นอกจากนี้สกิล Nightmare นั้นเราอาจจะใช้ในจังหวะเข้าโจมตีเป้าหมายก็ได้ การหลับศัตรูไว้ทำให้ศัตรูหนีรอดได้ยากและมีโอกาสที่ทีมจะตามเข้ามารุมโจมตีได้สบายๆ

การฆ่าศัตรู
     Hero Dota ที่ชื่อ Bane Elemental ตัวนี้เป็นฮีโร่สาน Int ที่มีพลังโจมตีที่น้อยแต่ก็ไม่ถึงกับน้อยมากนัก ดังนั้นการที่จะฆ่าศัตรูซักคนจึงต้องอาศัยการใช้สกิลเกือบจะ 100% และก็จะมีสกิล Brain Sap ที่จะเป็นสกิลที่มีความรุนแรงพอที่จะฆ่าศัตรูได้เลย มีสกิลที่สามารถดูดพลังชีวิตของศํตรูมาเป็นของตัวเองได้เมื่อเราเสียเปรียบก็อาจจะงัดสกิลนี้ออกมาเพื่อพลิกสถาณการณ์ก็ได้

หน้าที่ของฮีโร่
     หน้าที่ของฮีโร่ตัวนี้คือการเล่นเป็นตัวโจมตีผสมไปกับการสนับสนุน โดยด้านการโจมตีนั้นสกิลที่มันมีไม่ได้เพียงแค่โจมตีเพียงอย่างเดียว เพราะจะเป็นการหยุดศัตรูเอาไว้นานๆอีกด้วย ซึ่ง 3 สกิลของมันสามารถรับมือศัตรู 3 ตัวพร้อมกันได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นหากจะมองหาหน้าที่เหมาะสมที่สุด มันจึงเป็นการเล่นแบบสนับสนุนและเน้นการโจมตีผสมผสานไปด้วย และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Bane Elemental

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Hero Dota "Broodmother" ตัวประกอบในหนังเรื่องสไปเดอร์แมน ฉากกัดคอพระเอก

Hero Dota Broodmother


ความเป็นมา
     เธอเคยเป็นราชินีของเหล่าแมงมุมทั้งหลาย โดยการครอบงำจิตใจแมงมุมเหล่านั้นด้วยความกลัวและแล้วเธอก็ได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดลงไปด้วยการไปตกหลุมรักกับ Anub’Arak นักฆ่าผู้ทรยศ เธอจึงโดนเนรเทศออกจากอาณาจักรของเธอ เธอจึงร่วมมือกับนักฆ่าผู้ทรยศ คนรักของเธอเพื่อเข้าสู่ battle of the Ancients และได้ให้กำเนิด Anub’Arak เป็นตัวแทนแห่งความรักของเธอ เธอมีทักษะหลายอย่างในการต่อสู้และอำพราง ทั้งการสร้างใยเพื่อลวงศัตรู ทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต และสั่งให้ลูกๆของเธอรุมทำร้ายศัตรู เมื่อเธอมีความกระหายในการต่อสู้เธอก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ทำให้เธอมีความต้องการที่จะฆ่าเหยื่ออย่างไม่สิ้นสุด

สกิล
Spawn Spiderlings
ยิงไข่เข้าไปฝังในตัวเป้าหมาย สร้างความบาดเจ็บรุนแรง และหากเป้าหมายตายจากความเจ็บปวดนี้จะมี Spiderling ฟักตัวออกมาจากศพของเป้าหมาย Spiderling ให้เงิน 11-13 และ exp 20
ยูนิตที่ถูกฆ่าโดย Spiderling จะสร้าง Spiderite ออกมา ซึ่งจะตัวเล็กกว่าและอ่อนกว่า Spiderling
เลเวล 1 ทำความเสียหาย 75 แต้ม หากตายจะฟักออกมาเป็น Sprderling 1 ตัว
เลเวล 2 ทำความเสียหาย 150 แต้ม หากตายจะฟักออกมาเป็น Sprderling 2 ตัว
เลเวล 3 ทำความเสียหาย 225 แต้ม หากตายจะฟักออกมาเป็น Sprderling 3 ตัว
เลเวล 4 ทำความเสียหาย 300 แต้ม หากตายจะฟักออกมาเป็น Sprderling 4 ตัว

Spin Web
ถักใยขึ้นมาสร้างเป็นรังในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งในพื้นที่นั้น Brood Mother จะสามารพรางตัวได้ และได้รับโบนัสการฟื้น HP และโบนัส Move Speed ด้วย ยิ่งเลเวลสกิลสูง โบนัสก็ยิ่งมากตามไปด้วย
ถ้าวางใยเกินกว่าจำนวนสูงสุดที่วางได้ อันที่อยู่นานที่สุดจะหายไป
เลเวล 1 สร้างได้ 2 จุด เพิ่มอัตราการฟื้นฟู 2 หน่วยต่อวินาที เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%
เลเวล 2 สร้างได้ 4 จุด เพิ่มอัตราการฟื้นฟู 4 หน่วยต่อวินาที เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%
เลเวล 3 สร้างได้ 6 จุด เพิ่มอัตราการฟื้นฟู 6 หน่วยต่อวินาที เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%
เลเวล 4 สร้างได้ 8 จุด เพิ่มอัตราการฟื้นฟู 8 หน่วยต่อวินาที เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20%

Incapacitating Bite
เคลือบพิษให้กับการโจมตีของ Brood Mother เพิ่มโบนัสดาเมจให้กับการโจมตี เป้าหมายที่ติดพิษจากการโจมตีจะเคลื่อนที่ช้าลง และมีโอกาสโจมตีพลาด
การโจมตีพลาดเป้าของยูนิตที่ได้รับผลจะนำมาคิดรวมกับอัตรการหลบหลีกและการโจมตีในพื้นที่สูง-ต่ำด้วย
เลเวล 1 มีโอกาสโจมตีพลาด 10% ลดความเร็วเคลื่อนที่ 10% เพิ่มดาเมจ 2 ดาเมจ
เลเวล 2 มีโอกาสโจมตีพลาด 15% ลดความเร็วเคลื่อนที่ 20% เพิ่มดาเมจ 4 ดาเมจ
เลเวล 3 มีโอกาสโจมตีพลาด 20% ลดความเร็วเคลื่อนที่ 30% เพิ่มดาเมจ 6 ดาเมจ
เลเวล 4 มีโอกาสโจมตีพลาด 25% ลดความเร็วเคลื่อนที่ 40% เพิ่มดาเมจ 8 ดาเมจ

Insatiable Hunger
ปลุกความกระหายเลือดในตัว Brood Mother ซึ่งจะเพิ่มโบนัสดาเมจ และทำให้สามารถดูดเลือดจากการโจมตีได้ มีผลเป็นเวลา 12 วินาที
เลเวล 1 เพิ่มโบนัสดาเมมจ 60 แต้ม ดูดเลือดได้ 40% ของพลังโจมตี
เลเวล 2 เพิ่มโบนัสดาเมมจ 80 แต้ม ดูดเลือดได้ 60% ของพลังโจมตี
เลเวล 3 เพิ่มโบนัสดาเมมจ 100 แต้ม ดูดเลือดได้ 100% ของพลังโจมตี

ไอเท็มที่ควรออก
Power Treads (ขาไม้)
Black King Bar
Orchid Melevolence (คาทาใบ้)
The Butterfly (ดาบเขียว)
Monkey King Bar
Assault Cuiress (เกราะกระดูก)

แนวทางการเล่น
     ถ้าจะเล่นให้ดีคือต้องพยายามใช้เจ้าแมงมุม Spin Web เอาไว้เป็นหลัก เพราะการเข้าไปใกล้จะมีประโยชน์ต่อการเล่นของเรามาก เราไม่จำเป็นต้องกางในพื้นที่บนเลนเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะเลือกกางเอาไว้ในเขตป่าทั้งหลายเพื่อดูความเคลื่อนไหวของศัตรู หรืออาจเอาไว้ใช้ฟาร์มด้วยสกิล Span Spiderlings ให้พยายามใช้งานมันแบบต่อเนื้องเพื่อสร้างเหล่าลูกแมงมุมออกมา้เรื่อยๆ เอามาช่วยโจมตีหรือรับความเสียหายแทนเวลาเล่นได้

การฆ่าศัตรู
     Hero Dota ที่ชื่อ Broodmother จะฆ่าใครต้องมีสเตปซักนิด โดยเริ่มจากสกิล Incapacitating Bite ทำให้ศัตรูติดพิษและลดความเร็วของศัตรูลง หลังจากนั้นก็ Spawn Spiderlings โจมตีเป้าหมายด้วยความรุนแรง หลังจากนั้นก็กาง Spin Web เพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ หลังจากนั้นก็กดอันติ Insatiable Hunger เพิ่มความแรงในการโจมตี และดูดเลือดศัตรูตามเปอร์เซ็นของดาเมจตามเลเวลของสกิล เจอแบบนี้ใครก็รอดยาก

หน้าที่ของฮีโร่
     ให้พยายามเล่นเป็นตัวฆ่าหลักของทีมไปเลย เพราะมันมีความสามารถในการโจมตีที่สูงมาก ทั้งด้านการสร้างความเสียหายและการเข้าประชิด  ทำได้ค่อนข้างดีทั้งจากระยะไกลและใกล้ นอกจากนี้สกิลไม้ตายของมันอาจเปลี่ยนบทบาทให้มันกลายเป็นฮีโร่ตัวลุย ตัวชนให้กับทีม เมื่อโดนมันโจมตีแล้วถือว่ายากมากที่จะหลบหนีและยากมากกว่าที่จะเอาชีวิตรอดได้ ทั้งเมดนี้เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Broodmother


ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ



Hero Dota "N'aix" กอลลัม ส่งแหวนมาให้ข้า

Hero Dota "N'aix"


ความเป็นมา
     ก่อนที่จะมาเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวแบบนี้ ครั้งหนึ่ง N'aix เคยเป็นมนุษย์ใน Lordaeron ใช้ชีวิตอยู่กับความโลภมากอยากได้ของคนอื่น และก็ถูกจับได้ขณะที่กำลังจะขโมยแหวนของเจ้าชาย Arthas เลยโดนจับแขวนคอ แต่จิตใต้สำนึกที่ชั้วร้าย ความเลวทรามในการอยากขโมยของยังคงอยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงปราถนา ปลุกให้เขาเป็นผีชั้วร้ายรู้จักกันในชื่อของ N'aix โดยไม่มีใครนึกถึงชื่อเก่า เขาปรากฎกายอยู่ในสภาพของปีศาจชั่วร้าย และสิ่งที่เขาจะขโมยก็คือ พลังชีวิตของสิ่งมีชิวิตทุกชนิด

สกิล
Rage
ทำให้ N’aix เข้าสู่ภาวะคลุ้มคลั่ง ในภาวะนี้ N’aix จะโจมตีได้เร็วขึ้นและไม่ได้รับผลจากเวทมนตร์ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ความเร็วในการโจมตีที่เพิ่มขึ้นใช้ร่วมกับ Frenzy จาก Mask of Madness ได้
เลเวล 1 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 30% มีผลนาน 2.5 วินาที
เลเวล 2 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 45% มีผลนาน 3.25 วินาที
เลเวล 3 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 60% มีผลนาน 4 วินาที
เลเวล 4 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 80% มีผลนาน 4.75 วินาที

Feast
เมื่อโจมตีจะทำความเสียหายตาม % ของ HP ที่เป้าหมายมีอยู่ และดูดกลืนมาเติม HP ให้กับตัวเอง
การฟื้นฟูไม่เกี่ยวข้องกับความเสียหายที่ทำ
เลเวล 1 ทำความเสียหาย 4% ของ HP ที่เป้าหมายมีอยู่
เลเวล 2 ทำความเสียหาย 5% ของ HP ที่เป้าหมายมีอยู่
เลเวล 3 ทำความเสียหาย 6% ของ HP ที่เป้าหมายมีอยู่
เลเวล 4 ทำความเสียหาย 7% ของ HP ที่เป้าหมายมีอยู่

Open Wounds
สร้างบาดแผลรุนแรงต่อเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง และพันธมิตรของเราโดยรอบจะดูดเลือดจากเป้าหมายได้ด้วยในภาวะนี้ มีผลนาน 8 วินาที เป้าหมายจะค่อยๆ ฟื้นคืนความเร็วต่อวินาที (เหมือนโดน Purge)
ความเสียหายที่สร้างทั้งหมดจะไปฟื้นฟู HP รวมถึงความเสียหายจากเวทย์ด้วย
เลเวล 1 พันธมิตรที่โจมตีเป้าหมายนี้ดูด HP ได้ 15% ของพลังโจมตี เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 8 วินาที
เลเวล 2 พันธมิตรที่โจมตีเป้าหมายนี้ดูด HP ได้ 20% ของพลังโจมตี เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 8 วินาที
เลเวล 3 พันธมิตรที่โจมตีเป้าหมายนี้ดูด HP ได้ 25% ของพลังโจมตี เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 8 วินาที
เลเวล 4 พันธมิตรที่โจมตีเป้าหมายนี้ดูด HP ได้ 30% ของพลังโจมตี เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 8 วินาที

Infest
เข้าฝังตัวในร่างของยูนิตเป้าหมาย ซ่อนตัวได้จนกว่าจะเป้าหมายจะตาย หรือเราจะกินเป้าหมายซะเอง
N'aix ได้รับค่าประสบการณ์จากการฆ่ายูนิตที่เข้าไปอยู่ข้างใน
ถ้ายูนิตที่เข้าไปสิงถูกฆ่าก่อน จะไม่ได้รับจากฟื้นฟู HP
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 150 โดยรอบ
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 275 โดยรอบ
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 400 โดยรอบ

ไอเท็มที่ควรออก
Power Treads (ขาไม้)
Armlet of Mordiggian
Stygain Desolator (เจาะเกราะ)
Kelen's Dagger (ดาบบลิ้ง)
Assault Cuirass (เกราะกระดูก)
The Buttterfly (ดาบเขียว)

แนวทางการเล่น
     เทคนิคการเล่นฮีโร่ตัวนี้อาจจะต้องระวังกันมากๆหน่อย เพราะ Lifertealer เป็นฮีโร่ที่มีค่าพลังชีวิตไม่ค่อยมาก โดนสกิลแรงๆซักทีสองทีก็อาจกลับน้ำพุได้ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องเซฟตัวเองไว้หน่อยไม่ให้ตายบ่อย แต่ด้วยสกิล Rage ซึ่งเวลาที่ผลของสกิลยังทำงานอยู่ เราจะไม่โดนผลของสกิลใดๆ ใช้ได้ทั้งการเข้าปะทะหรือไว้หนีตาย อีกสกิลที่พลาดไม่ได้คือต้องอัพสกิล Open Wounds สกิลที่ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลงเพื่อให้เราเข้าถึงตัวได้ ถ้าไม่มีสกิลนี้เวลาจะฆ่าใครก็จะลำบาก

การฆ่าศัตรู
     Hero Dota ที่ชื่อ N'aix เวลาที่จะฆ่าศัตรูซักตัวเป็นอะไรที่ไม่ใช่เรื่องหนักหนาซักเท่าไหร่ ยิ่งถ้ามีพลังโจมตีที่รุนแรงก็บอกได้เลยว่า ตบไม่กี่ทีศัตรูตัวนนั้นก็กลับน้ำพุได้เลย เริ่มด้วยสกิล Open Wounds สร้างบาดแผลให้ศัตรู และลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรู หลังจากนั้นเราก็เปิดสกิล Rage วิ่งเข้าไปตบ ศัตรูจะไม่สามารถใช้สกิลใส่เราได้เลยตราบที่ยังมีผลของสกิล Rage อยู่ ทำได้เพียงการโจมตีธรรมดาเท่านั้น ซึ่งถ้าจะมายืนสดกับเราแบบนี้รับรองว่าไม่สู้เราแน่เพราะเรามีสกิล Feast ที่จะดูดเลือดเป้าหมายเป็นเปอร์เซ็นของเลือดเป้าหมายที่มีอยู่ เจอแบบนี้ถ้าเป็นตัวบางๆรับรองได้เลยว่าตายอย่างเดียว

หน้าที่ของฮีโร่
     หน้าที่ของ N'aix คือการเก็บเลเวลให้เร็วที่สุด เพราะประสิทธิภาพในการไล่ล่าของเรานั้นจำเป็นที่จะต้องมีสกิลครบ ซึ่งกว่าจะครบก็จะอยู่ในช่วงกลางเกมเป็นต้นไป หลังจากช่วงกลางเกมก็เดินสายคอมโบกับเพื่อนร่วมทีมได้เลย เพราะตัวเราไม่จำเป็นต้องมีไอเท็ฒอะไรมากมาย ขอแค่สกิลครบก็น่ากลัวพอแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ N'aix

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Hero Dota "Chaos Knight" ทหารม้า อาชาเหล็ก

Hero Dota "Chaos Knight"


ความเป็นมา
     Chaos Knight เป็นคนที่คอยติดตามรับใช้เทพเจ้าแห่งความวุ่นวาย และเขาก็ได้ใช้พลังของเขาเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่เขากับไม่เห็นด้วยกับพลังที่ได้รับที่มันก่อให้เกิดความวุ่นวาย มันจึงทำให้เขาสับสน ในการโจมตีเพื่อที่จะหยุดศัตรู ความสับสนที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งที่หยุดศัตรูเวลาก็จะไม่เท่ากัน พลังของ Chaos Knight เป็นพลังที่น่ากลัวและน่าเกรงขาม เขาสามารถสร้างร่างของเขาขึ้นมาได้สามร่าง ใครที่คิดจะต่อต้านเขาก็จะโดนโจมตีท่ามกลางความสับสนวุ่นวายที่แม้แต่ตัวเขาเองก็หยุดมันไม่ได้

สกิล
Chaos Bolt
ยิงคลื่นพลังใส่เป้าหมาย ทำดาเมจแบบสุ่ม และทำให้มึนงงชั่วระยะเวลาหนึ่งแบบสุ่ม
ระยะเวลา stun และความเสียหายจะแสดงให้เห็นเหนือหัวของเป้าหมาย (ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายศัตรู)
เลเวล 1 หยุดศัตรู 1-2 วินาที ทำความเสียหาย 1-200 ดาเมจ
เลเวล 2 หยุดศัตรู 1-3 วินาที ทำความเสียหาย 50-225 ดาเมจ
เลเวล 3 หยุดศัตรู 1-4 วินาที ทำความเสียหาย 75-250 ดาเมจ
เลเวล 4 หยุดศัตรู 2-2 วินาที ทำความเสียหาย 100-275 ดาเมจ

Reality Rift
เทเลพอร์ตไปยังยูนิทเป้าหมาย หากเป็นศัตรูจะโจมตีด้วย และเพิ่มโบนัสดาเมจในการโจมตี
เคลื่อนย้าย Chaos Knight ไปยังพื้นที่สุ่มในเส้นทางระหว่างตัวเองกับเป้าหมาย (ระหว่าง 30% และ 80% ของระยะ)
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 25 ดาเมจ ระยะเข้าโจมตี 550
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 50 ดาเมจ ระยะเข้าโจมตี 600
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 75 ดาเมจ ระยะเข้าโจมตี 650
เลเวล 4 สร้างความเสียหาย 100 ดาเมจ ระยะเข้าโจมตี 700

Critical Strike
เพิ่มโอกาสในการทำความเสียหายมากกว่าปกติในการโจมตีแต่ละครั้ง
เลเวล 1 มีโอกาส 10% ที่จะทำดาเมจเป็น 1.5 เท่า
เลเวล 2 มีโอกาส 10% ที่จะทำดาเมจเป็น 2 เท่า
เลเวล 3 มีโอกาส 10% ที่จะทำดาเมจเป็น 2.5 เท่า
เลเวล 4 มีโอกาส 10% ที่จะทำดาเมจเป็น 3 เท่า

Phantasm
เรียกร่างเสมือนของ Chaos Knight ออกมาจากมิติอื่น ร่างเสมือนจะทำดาเมจได้เท่ากับตัวจริง แต่จะรับดาเมจมากกว่าตัวจริงสองเท่า
ยกเลิกผลสถานะทุกอย่างออกจาก Nessaj
เลเวล 1 สร้างร่างเสมือนขึ้นมา 1 ร่าง
 เลเวล 2 สร้างร่างเสมือนขึ้นมา 2 ร่าง 
เลเวล 3 สร้างร่างเสมือนขึ้นมา 3 ร่าง

ไอเท็มที่ควรออก
Power Treads (ขาไม้)
Vanguard (โล่บล๊อกดาเมจ)
Butterfury (ขวานทองกระจายดาเมจ)
Assault Cuirass (เกราะกระดูก)
Heat of Tarrasque (หัวใจแสง)
Stygain Desolator (เจาะเกราะ)

แนวทางการเล่น
     ช่วงแรกนั้นถือว่ายากเหมือนกันเพราะมันไม่มีสกิลฟาร์มดีๆเอาไว้ช่วยเลย เป็นฮีโร่ที่ต้องการการสนับสนุนจากทีมมากสำหรับการเล่น เพราะถึงแม้มันจะมีสกิลหยุดและเข้าประชิดครบ แต่ก็มีความไม่แน่นอนได้เหมือนกัน เพราะสกิลสตั้นนั้นสุ่มระยะเวลาตืดมากพอสมควร ในช่วงเริ่มต้นให้พยายามเน้นการฟาร์มเป็นหลัก และอาศัยสกิล Chaos Bolt ในการฟาร์มรวมถึงการ Ganker ร่วมกับทีม เพราะถ้าสามมารถทำได้นานถึง 4 วินาทีนั้นถือว่ามีโอกาสฆ่าเป้าหมายได้เลยทีเดียว เทคนิคการเล่นอีกอย่างอยู่ที่การใช้สกิลไม้ตาย Phantasm สกิลนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้ก่อนแล้วเข้าประชิดเป้าหมาย แต่อาจเข้าไปก่อนแล้วค่อยเปิดใช้ก็ได้ เพราะผลของสกิลจะทำให้ยกเลิกสถานะผิดปกติบางอย่างได้และทำให้ศัตรูมองเห็นได้ทันทีแบบไม่มีเวลามองหาตัวจริง เวลาคบคุมฮีโร่ให้พยายามเอาตัวจริงไปอยู่ช่วงกลางๆ ของกลุ่มแยกร่าง ซึ่งน่าจะปลอดภัยจากการโดนโจมตีมากที่สุด

การฆ่าฮีโร่
     Hero Dota ที่ชื่อว่า Chaos Knight ตัวนี้ การที่เขาจะฆ่าใครซักคนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่นากเย็นอะไรนัก โดยเปิดฉากโดยสกิล Reality Rift เทเลพอร์ทเข้าไปหาศัตรูสร้างความเสียหายแก่ศัตรู และหลังจากนั้นก็สกิล Chaos Boltที่จะสุ่มดาเมจและระยะเวลาในการติดสตั้น ยิ่งติดนานยิ่งมีโอกาสฆ่าได้ง่ายขึ้นและในช่วงเวลาที่ศัตรูติดสถานะสตั้นอยู่เราก็ แยกร่างออกมาช่วยกันตี กว่าศัตรูจะหายงงก็คงเกือบตายหรือไม่ก็ตายไปแล้วก็เป็นได้

หน้าที่ของฮีโร่
     พยายามเล่นเป็นตัวนำของทีมไปเลยก็ได้ เพราะด้วยความอึดและความสามารถของสกิลที่ดีก็น่าจะเล่นได้ไม่ยาก ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันเป็นตัวเปิดชั้นเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวหยุดที่ดีเท่าไหร่นัก สิ่งที่ Chaos Knight ทำได้ดีมากคือการเข้ารุมโจมตีเป้าหมาย และฆ่ามันลงในเวลาไม่นาน รวมถึงการบุกขึ้นบ้านเพื่อทำลายป้อมด้วย และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อว่า Chaos Knight

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Hero Dota "Axe" คนถือขวานลักรอบตัดต้นไม้แห่งป่า Sentinel

Hero Dota "Axe"


ความเป็นมา
     สงครามที่ดำเนินมาอย่างช้านานระหว่างมนุษย์กับออค เหล่านักรบแห่งออคมากมายได้รับความเสียหายจากเหล่าปีศาจและถูกชักจูงเข้าสู่พลังแห่งความมืด แต่มีนักรบผู้นึกที่เป็นลูกครึ่งทางสายเลือดและเป็นผู้นำของเหล่าทหkรออค ชื่อของเขาคือ Mogul Kahn ออคถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์โดยพลาดีนชาวมนุษย์ แต่มีเขาเพียงผู้เดียวที่จะยืนหยัดสู้ไม่เคยถอยเขาก็คือ Axe

สกิล
Berserker's Call
ดึงดูดการโจมตีของศัตรูโดยรอบเข้ามาหา Axe ศัตรูที่อยู่ใต้ผลของสกิลนี้จะโจมตี Axe จนกว่าจะหมดผลของสกิลโดยที่เจ้าของไม่สามารถสั่งการอย่างอื่นได้ ระหว่างใช้สกิลนี้จะเพิ่มโบนัสเกราะให้กับตัว Axe ด้วย มีรัศมี 300 AoE
เลเวล1 มีผลนาน 1.5 วินาที เพิ่มโบนัสเกราะ 30 แต้ม
เลเวล 2 มีผลนาน 2 วินาที เพิ่มโบนัสเกราะ 30 แต้ม
เลเวล 3 มีผลนาน2.5 วินาที เพิ่มโบนัสเกราะ 30 แต้ม
เลเวล 4 มีผลนาน 3 วินาที เพิ่มโบนัสเกราะ 30 แต้ม

Battle Hunger
สาปให้เป้าหมายกระหายการฆ่าฟัน ทำให้ได้รับดาเมจทุกวินาที จนกว่าจะฆ่ายูนิทใดๆ ได้เพื่อแก้คำสาป
เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้กับ Axe 4% ต่อยูนิต 1 ตัวที่ได้รับผล
เลเวล 1 ทำดาเมจ 15 แต้มต่อวินาที มีผลนาน 10 วินาที
เลเวล 2 ทำดาเมจ 21 แต้มต่อวินาที มีผลนาน 13 วินาที
เลเวล 3 ทำดาเมจ 27 แต้มต่อวินาที มีผลนาน 16 วินาที
เลเวล 4 ทำดาเมจ 33 แต้มต่อวินาที มีผลนาน 19 วินาที

Counter Helix
มีโอกาส 17% ที่ Axe จะสวนกลับการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามด้วยการหมุนตัวฟันศัตรูโดยรอบ ทำความเสียหายต่อศัตรูทุกตัวในรัศมี 300 AoE
Counter Helix มีผลเมื่อเริ่มทำการโจมตี ไม่ใช่เมื่อได้รับการโจมตีนั้น
เลเวล 1 มีโอกาส 17% ที่ Axe จะสร้างความเสียหายรอบตัว 100
เลเวล 2 มีโอกาส 17% ที่ Axe จะสร้างความเสียหายรอบตัว 130
เลเวล 3 มีโอกาส 17% ที่ Axe จะสร้างความเสียหายรอบตัว 160
เลเวล 4 มีโอกาส 17% ที่ Axe จะสร้างความเสียหายรอบตัว 190

Culling Blade
โจมตีปลิดชีพเป้าหมาย ทำความเสียหายรุนแรง แต่จะฆ่าเป้าหมายทันทีหากว่ามี HP ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ และเมื่อถือ scepter จะลด Cooldown ลง 5 วินาที
การโจมตีให้ถึงตายจะมีผลถ้าเป้าหมายมี HP ต่ำกว่า 300/450/625 ตามเลเวลของสกิล
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย ถ้า HP ต่ำกว่า 300 จะตายทันที
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย ถ้า HP ต่ำกว่า 450 จะตายทันที
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย ถ้า HP ต่ำกว่า 625 จะตายทันที

ไอเท็มที่ควรออก
Vanguard (โล่บล๊อคดาเมจ)
Arcane Boots (รองเท้ารีมานา)
Kelen's Dagger (ดาบบลิ้ง)
Aghanim's Scepter (คาทาฟ้า)
Heart of  Tarrasque (หัวใจแสง)
Ghost Scepter (คาทาผี)

แนวทางการเล่น
     Hero Dota ที่ชื่อ Axe การเล่นฮีโร่ตัวนี้ไม่ค่อยยุ่งยากซับซ้อนนัก ซึ่งช่วงต้นเกมหากออกไอเท็ม Kelen's Dagger ได้ก็จะช่วยให้สามารถเล่นได้ง่ายขึ้น โดยเทคนิคง่ายๆเพียงแค่จังหวะที่บุกไปตีป้อมอีกฝ่าย ให้พยายามเล็กไปที่ฮีดร่ Nuker หรือ Carry ตัวบางๆไว้เป็นหลัก โดยให้เราทำการ Blink เข้าไปเปิดให้แก่ทีม และใช้สกิล Berserker's Call เพื่อทำการดึงเป้าหมายให้หันมาตีเรา อีกทั้งยังทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้สกิลได้ไปชั่วขณะ เราก็แค่มารุมกินโต๊ะเท่านั้น

การฆ่าฮีโร่
     ให้ทำการ blink ใช้สกิล Battle Hunger เพื่อสาปเป้าหมายให้กระหายการต่อสู้และลดพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นก็โจมตีทางการภาพแบบปกติ หากเป้าหมายจะหนีเราก็ใช้สกิล Berserker's Call เพื่อดึงเป้าหมายไว้ และพอเป้าหมายเลือดน้อยกว่า 300/450/625 ก็ให้ใช้สกิล Culling Blade ปิดฉากการต่อสู้ แต่ต้องดูเลือดของเป้าหมายและเลเวลของ Culling Blade ด้วย เพื่อจะได้ไม่ผิดพลาด

หน้าที่ของฮีโร่
    Axe จัดเป็นฮีโร่ที่ว่าอึด ถึก หินที่สุดของเกมตัวนึง และเป็นตัวอันตรายอีกตัวที่สามารถเล่นได้ทั้งสายแท็งค์พร้อมกับดันครีปไปได้ตั้งแต่เลเวล 1 สามารถสร้างความปวดหัวให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี หน้าที่ของฮีโร่ตัวนี้จะเป็นฮีโร่ที่คอยเปิดเกมหรือเป็นตัวชนให้แก่เพื่อนร่วมทีมในจังหวะปะทะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้องๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Axe

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ



Hero Dota "Moon Rider" นักดาราศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับดวงดาวและดวงจันทร์

Hero Dota Moon Rider


ความเป็นมา
     Luna Moonfang เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและคอยติดตาม Moon Goddess ชื่อว่า Elune ซึ่งเธอได้ต่อสู้อยู่เคียงข้างฝั่ง Sentinel มาโดยตลอด และสงครามที่ดำเนิมมาอย่างยาวนานเพื่อชำระร้างความชั่วร้ายอย่างพวก Scourge เธอจึงต้องพยายามอย่างหนัก แต่โชคก็เข้าข้างเธอเธอได้รับลังพิเศษจาก Elune พลังที่ได้มานี้เธอนำไปใช้ในการตัดทะลุผ่านร่างศัตรูของเธอ Moon Rider เธอเคยถูกกล่าวไว้ว่าเธอสามารถเรียกแสงแห่งดวงจันทร์เพื่อส่งแสงสว่างโดยรอบ เธอจึงเป็นดังแสงสว่างที่คอยปกป้อง Sentinel

สกิล 
Lucent Beam
ใช้พลังแห่งแสงจันทร์โจมตีเป้าหมาย ทำให้ได้รับดาเมจรุนแรง และติด Ministun ชั่วขณะ
ให้ผล mini-stun เพื่อขัดจังหวะเป้าหมาย
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 75 ดาเมจติดมินิสตั้น 0.6 วินาที
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 150 ดาเมจติดมีนิสตั้น 0.6 วินาที
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 225 ดาเมจติดมีนิสตั้น 0.6 วินาที
เลเวล 4 สร้างความเสียหาย 300 ดาเมจติดมีนิสตั้น 0.6 วินาที

Moon Glaive
ทำให้กงจักรของ Luna สามารถชิ่งไปยังเป้าหมายใกล้เคียงได้ ทำให้สามารถโจมตีศัตรูหลายๆ ตัวได้พร้อมกันในการโจมตีครั้งเดียว การชิ่งแต่ละครั้งจะทำความเสียหาย 30%
จะไม่มีผลถ้าใช้กับไอเทมต่อไปนี้: Maelstrom , Mjollnir , Stygian Desolator
เลเวล 1 โจมตี 2 เป้าหมายทุกครั้งที่โจมตี
เลเวล 2 โจมตี 3 เป้าหมายทุกครั้งที่โจมตี
เลเวล 3 โจมตี 4 เป้าหมายทุกครั้งที่โจมตี
เลเวล 4 โจมตี 5 เป้าหมายทุกครั้งที่โจมตี

Lunar Blessing
เพิ่ม damage ให้กับ hero ในทีม และเพิ่ม night vision กับ hero
เลเวล 1 เพิ่ม 14 ดามเจและระยะมองเห็นในเวลากลางคืน
เลเวล 2 เพิ่ม 20 ดาเมจและระยะมองเป็นในเวลากลางคือ
เลเวล 3 เพิ่ม 26 ดาเมจและระยะมองเห็นในเวลากลางคืน
เลเวล 4 เพิ่ม 32 ดาเมจและระยะมองเห็นในเวลากลางคืน

Eclipse
เรียกพลังแห่งแสงจันทร์จำนวนมากลงมาโจมตีศัตรูที่อยู่รอบตัว Luna แบบสุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พลังโจมตีแต่ละครั้งจะเท่ากับระดับเลเวลของสกิล Lucent Beam
เปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืน 10 วินาที
เลเวล 1 โจมตีแบบสุ่ม 4 ครั้ง ด้วยสกิล Lucent Beam แต่ละเป้าหมายจะโดนผลของสกิลเพียง 4 ครั้ง
เลเวล 2 โจมตีแบบสุ่ม 7 ครั้ง ด้วยสกิล Lucent Beam แต่ละเป้าหมายจะโดนผลของสกิลเพียง 4 ครั้ง
เลเวล 3 โจมตีแบบสุ่ม 10 ครั้ง ด้วยสกิล Lucent Beam แต่ละเป้าหมายจะโดนผลของสกิลเพียง 4 ครั้ง

ไอเท็มที่ Moon Rider ควรออก
Power Treade (ขาไม้)
Aghanim's Scepter (คาทาฟ้า)
Kelen's Dagger (ดาบบลิ้ง)
Black King Bar
Lothar's Edge (ขวานวินวอล์ค)
The Butterfly (ดาบเขียว)

แนวทางการเล่น
     Hero Dota ที่ชื่อ Moon Rider เป้นฮีโร่ที่ต้องใช้จังหวะในการเข้าทำมากๆ โดยเฉพาะการใช้สกิล Eclipse ในการคอมโบกัยทีม เพราะหากเราใช้สกิลนี้ในขณะที่ยังมีครีปของฝ่ายตรงข้ามอยู่แยอะ โอกาสที่ครีปจะแชร์ดาเมจจากสกิลของเราก็มีอยู่สูงเช่นกัน แต่หากเราได้ใช้ช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นตอนที่ครีปไม่มี สกิล Eclipse ของเราจะส่งคู่ต่อสู้กลับไปเกิดอย่างน้อยก็ตัวสองตัวเลยทีเดียว

การฆ่าฮีโร่
     สำหรับตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมีสกิลให้ใช้เพียง 2 สกิลเท่านั้น ก็ให้เริ่มเปิดฉากการโจมตีด้วยสกิล Lucent Beam ที่ถือว่าสร้างความเสียหายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และทีเด็ดของเราก็อยู่ที่สกิล Eclipse ที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ยิ่งเจอกันแบบ 1-1 ไม่มีครีปมาให้แชร์ดาเมจรับรองได้เลยว่าศัตรูเจ็บหนักแน่นอน หลังจากนั้นก็โจมตีแบบกายภาพรับรองว่าหนีไม่รอดแน่นอน

หน้าที่ของ Moon Rider
     อาจจะเล่นแบบเป็นตัวทำดาเมจให้กับทีมก็จะสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะมีสกิลที่รุนแรงอย่าง Eclipse และการโจมตีที่โจมตีเพียงครั้งเดีวยก็จะชิ่งออกไปอีหลายครั้งเรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ทีมีประโยยชน์กับทีมอีกตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Moon Rider

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Hero Dota "Ogre Magi" ยัก 2 หัว

Hero Dota "Ogre Magi" ยัก 2 หัว 


ความเป็นมา
     Ogre Magi เป็น Orges เกิดมาเพื่อต่อสู้ด้วยการใช้ความสามารถทางด้านเวทย์มนตร์ โดยไม่ต้องมีใครมาสอนเขาใช้เวทย์มนตร์เลย เพราะตัวเขาเองมีความสามารถทางด้านนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์ของเขาเลย เขาสามารถยิงระเบิดไฟใส่เป้าหมาย และก็ยังมีความสามารถในการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้กับตัวเองและเพื่อนพันธมิตรอีกด้วย เป็นการสร้างวามนับถือในหมู่พวกพ้องและยังเป็นการข่มขวัญศัตรูทำให้ศัตรูหวาดกลัวอีกด้วย

สกิล
Fireblast
โจมตีเป้าหมายด้วยระเบิดไฟ สร้างความเสียหายและทำให้ Stun เป็นเวลา 1.5 วินาที
เมื่อติด Multi Cast จะโจมตีเป้าหมายเดียวกันตลอดทุก 0.3 วินาที
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 80 ดาเมจ ติดสตั้น 1.5 วินาที
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 145 ดาเมจ ติดสตั้น 1.5 วินาที
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 210 ดาเมจ ติดสตั้น 1.5 วินาที
เลเวล 4 สร้างความเสียหาย 275 ดาเมจ ติดสตั้น 1.5 วินาที

Ignite
ปาระเบิดเพลิงใส่เป้าหมาย ทำให้ได้รับความเสียหายจากไฟตลอดเวลา และเคลื่อนที่ช้าลง มีผลนาน 7.5 วินาที
Multi Cast ทำให้มีพื้นที่การโจมตีเป็น 150/300/450 ขึ้นกับเลเวลของ Multi Cast
เลเวล 1 สร้างความเสียหาย 26 ดาเมจต่อวินาที ติดสโลว์ 20% เป็นเวลา 4 วินาที
เลเวล 2 สร้างความเสียหาย 32 ดาเมจต่อวินาที ติดสโลว์ 22% เป็นเวลา 5 วินาที
เลเวล 3 สร้างความเสียหาย 38 ดาเมจต่อวินาที ติดสโลว์ 24% เป็นเวลา 6 วินาที
เลเวล 4 สร้างความเสียหาย 44 ดาเมจต่อวินาที ติดสโลว์ 26% เป็นเวลา 7 วินาที

Bloodlust
เพิ่มความเร็วในการโจมตีและเคลื่อนที่ให้กับเป้าหมาย
เมื่อติด Multi Cast เพื่อนร่วมทีมใกล้เคียงแบบสุ่มจะได้รับผลในระยะ 575 รอบตัว
เลเวล 1 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 20% และความเร็วในการเคลื่อนที่ 6%
เลเวล 2 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 30% และความเร็วในการเคลื่อนที่ 9%
เลเวล 3 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 40% และความเร็วในการเคลื่อนที่ 12%
เลเวล 4 เพิ่มความเร็วในการโจมตี 50% และความเร็วในการเคลื่อนที่ 15%

Multi Cast
เพิ่มความสามารถให้กับสกิลแต่ละสกิลของ Ogre magi และยังมีโอกาสที่จะเกิดผลสกิลหลายๆ ครั้งซ้อนกันได้ในการใช้สกิลครั้งเดียว
ทำให้ Fireblast และ Bloodlust มีโอกาสที่จะถูกร่ายหลายๆครั้ง และทำให้ Ignite กลายเป็นสกิลกลุ่ม
เลเวล 1 มีโอกาส 25% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 2 ครั้ง
เลเวล 2 มีโอกาส 40% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 2 ครั้ง และโอกาส 20% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 3 ครั้ง
เลเวล 3 มีโอกาส 55% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 2 ครั้ง และโอกาส 25% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 3 ครั้ง และโอกาส 12.5% ที่จะร่ายเวทย์ซ้อน 4 ครั้ง


ไอเท็มที่ Ogre Magi ควรออก
Arcane Boots (รองเท้ารีมานา)
Vaguard (โล่บล๊อกดาเมจ)
Force Staff (คาทาไถล)
Ancient Janggo of Endurance
Kalen's Dagger (ดาบบลิ้ง)
Guinsoo's Scythe of Vyse (เสกไก่)


แนวทางการเล่น
     Ogre Magi เป็นฮีโร่สาย int ที่มีความสามารถที่หลากหลายและมีประโยชน์กับทีมเป็นอย่างมากด้วยสกิล Bloodlust ที่จะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และการโจมตีให้กับเป้าหมาย หากใช้สกิลนี้ใส่เพื่อนในทีมที่มีพลังโจมตีแรงๆจะถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ในการเล่นนั้นก็ออกเลนเก็บเลเวลและก็ออกของตามสเตปที่ได้แนะนำไว้ หลังจากนั้นก็จะหาเพื่อนคู่หูซักคนวิ่งไล่ฆ่าฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามได้เลยเพราะตัวเรามีทั้งสกิลสตั้นที่จะใช้หยุดศัตรู และก็สกิลวิ่งเร็วที่ใช้ในการไล่ฆ่า อีกทั้งไปกับเพื่อนอีกด้วยก็เป็นเรื่องยากที่ศัตรูจะหนีรอดไปได้

การฆ่าฮีโร่
     การที่จะฆ่าฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามซักตัวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับฮีโร่ตัวนี้ เพราะมีทั้งสกิลสตั้น สกิลที่สร้างความเสียหายต่อเนื่อง และสกิลที่ใช้ในการวิ่งไล่ฆ๋า สกิลตีเร็ว ถ้าหากออกของถึกๆมาซักอันอย่าง Vanguard ก็สามารถที่จะยืนสดได้อย่างสบายๆแล้ว การไล่ฆ่านั้นให้เริ่มด้วยสกิล Fireblast ที่จะสร้างความเสียหายและสตั้นเป็นเวลา 1.5 วินาทีต่อจากนั้นก็ใช้สกิล Ignite ปาระเบิดเพลิงใส่ศัตรูสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และก็ใช้สกิล Bloodlust ใส่ตัวเองทำให้วิ่งเร็วตีเร็ววิ่งไล่จัดการศัตรูได้เลย คงจะเป้นเรื่องที่ไม่ยากเย็นนักสำหรับการที่จะฆ่าศัตรูซัก 1 ตัว

หน้าที่ของฮีโร่
     หลักๆเลยตัวนี้สามารถเล่นได้หลายรูปแบบ อย่างแรกคือไล่ Gank แต่แบบนี้ผมไม่ขอแนะนำซักเท่าไหร่ ที่จะแนะนำคือการสนับสนุนเพื่อนในทีมจะดีกว่า เพราะจะมีประโยชน์กับทีมมากและสร้างความได้เปรียบให้กับทีมได้เป็นอย่างดี ยิ่งเฉพาะในเวลาบวกกันแบบ 5 ต่อ 5 ให้เราสตั้นหยุดฮีโร่ฝั่งตรงข้ามที่มีสกิลรุนแรง หรือสกิลใบ้เพื่อสร้างจังหวะให้เพื่อนในทีมได้เปิดฉากการโจมตีก่อน และใช้สกิล Bloodlust ให้กับตัวดาเมจหลักของทีมจะยิ่งทำให้ทีมได้รับความได้เปรียบขึ้นไปอีกด้วย และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Ogre Magi

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ 


Hero Dota "Butcher" หล่อลากไส้

Hero Dota "Butcher" หล่อลากไส้


ความเป็นมา
     Butcher เกิดจากซากศพแห่งความชั่วร้ายที่ถูกนำมาเย็บรวมกัน สิ่งที่มันโปรดปรานเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือเนื้อหวานๆของสิ่งมีชีวิต หากมันหมายตราเหยื่อตัวไหนไว้แล้วก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดไปได้ Ahh Freah Meat คือคำปฏิญาณของมันที่มันชอบพูดในเวลาที่ได้ลิ้มรสเหยื่อ อาวุธคู่กายของมันคือตะขอโซ่และมีดปังตออันใหญ่ที่ตะขอของมันสามารถกระชากเหยื่อเข้ามาหาได้ในพริบตา ด้วยรูปร่างที่อัปลักของมันจงทำให้มันทนทานต่อการโจมตีและกลิ่นศพของมันทำให้ศัตรูมึนเมาและเคลื่ออนที่ช้าลงและสามารถทำให้ศัตรูตายได้อย่างรวดเร็ว

สกิล
Meat Hook
ขว้างตะขอออกไปเป็นแนวตรง ซึ่งจะเกี่ยวและดึงยูนิทใดๆก็ตามที่โดนเข้ามาหา Pudge หากเป็นฝ่ายศัตรู จะได้รับความเสียหายรุนแรงด้วย 
เลเวล 1 ขว้างตะขอออกไป 600 Rang และทำดาเมจ 90 ดาเมจ
เลเวล 2 ขว้างตะขอออกไป 800 Rang และทำดาเมจ 180 ดาเมจ
เลเวล 3 ขว้างตะขอออกไป 1000 Rang และทำดาเมจ 270 ดาเมจ
เลเวล 1 ขว้างตะขอออกไป 1200 Rang และทำดาเมจ 360 ดาเมจ

Rot
ปล่อยเชื้อโรคกระจายออกมารอบตัว Pudge ทำให้ยูนิทโดยรอบเคลื่อนที่ช้าลง และทำความเสียหายตลอดเวลา ตัว Pudge เองก็จะได้รับดาเมจนี้ด้วย Rot สามารถใช้งานได้ระหว่าง Dismember โดยที่ไม่ขัดจังหวะมัน
เลเวล 1 ทำความเสียหาย 35 ดาเมจต่อวินาที
เลเวล 2 ทำความเสียหาย 60 ดาเมจต่อวินาที
เลเวล 3 ทำความเสียหาบ 85 ดาเมจต่อวินาที
เลเวล 4 ทำวคมาเสียหาย 110 ดาเมจต่อวินาที

Flesh Heap
สะสมซากศพฮีโร่ที่ตายในบริเวณระยะ 400 ได้เอาไว้ในตัวเอง เพิ่ม STR ให้กับ Pudge ทีละน้อย และเพิ่มความต้านทานทางเวทมนตร์ด้วย
เลเวล 1 เพิ่มความต้านทานเวทย์ 4% เพิ่มค่า Str อีก 0.9 แต้ม
เลเวล 2 เพิ่มความต้านทานเวทย์ 8% เพิ่มค่า Str อีก 1.2 แต้ม
เลเวล 3 เพิ่มความต้านทานเวทย์ 12% เพิ่มค่า Str อีก 1.5 แต้ม
เลเวล 4 เพิ่มคาวมต้านทานเวทย์ 16% เพิ่มค่า Str อีก 1.8 แต้ม

Dismember
กัดขย้ำเป้าหมาย ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ และรับความเสียหายรุนแรง มีผลเป็นเวลา 3 วินาที
เลเวล 1 ทำดาเมจ 75 ดาเมจต่อวินาที
เลเวล 2 ทำดาเมจ 125 ดาเมจต่อวินาที
เลเวล 3 ทำดาเมจ 175 ดาเมจต่อวินาที

ไอเท็มที่ควรออก
Phase Boots
Vanguard (โล่บล๊อคดาเมจ)
Force Staff (คาทาไถล)
Aghanim's cepter (คาทาฟ้า)
Shiva's Guard (เกราะน้ำแข็ง)
Khadgar's Pipe of Insight 


แนวทางการเล่น
     Butcher เป็นฮีโร่สาย Str ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเล่นกันในเลนกลาง โดยสามารถที่จะทำการฆ่าศัตรูได้ตั้งแต่ต้นเกมเลยทีเดียว เพียงแค่ Meat Hook ขว้างตะขอออกไปให้โดนศัตรูและ Rot ปล่อยเชื้อโรคเผาศัตรูแค่นี้ศัตรูก็ตายได้ไม่ยาก เพราะช่วงต้นเกมศัตรูจะมีเลือดที่น้อยอยู่แล้วและผุ็เล่น Butcher ส่วนใหญ่จะต้องเล่นแบบไล่ตุ๋ยฮีโร่ฝั่งตรงข้ามเพราะมันเป็นฮีโร่ที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีมาก ด้วยการหามุมหลบอยู่ในป่าจากนั้นก็ ลากฮีโร่อกมาฆ่าได้แบบสบายๆ ในจังหวะเดียวกันก็ยังสามารถที่จะช่วยเพื่อนที่กำลังหนีตายด้วยสกิล Meat Hook ได้ด้วยเช่นกัน

การฆ่าฮีโร่
     เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับ Butcher เพราะเพียงแค่ Meat Hook ให้โดนศัตรูการฆ่าศัตรูก็ถือเป็นเรื่องง่ายไปเลย โดยเริ่มจากสกิล Meat Hook เมื่อโดนศัตรูแล้วมันจะทำดาเมจที่ถอว่าแรงใช้ได้เลยทีเดียว พอดึงศัตรูมาถึงตัวแล้ว ก็ Rot เผาศัตรูพร้อมทั้ง Dismember กัดศัตรูไว้ โดนแค่นี้ถ้าเป็นฮีโร่บางๆคงตายไปนานแล้ว แต่ถ้าเป็นฮีโร่ที่อึดหน่อยเราก็เดินปล่อย Rot เผาไปเรื่อยๆศัตรูไม่มีทางหนีรอดอยู่แล้ว เพราะ Rot ทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้ามาก

หน้าที่ของฮีโร่
     ฮีโร่ตัวนี้มีหน้าที่หลักเลยก็คือการไล่ Gank ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามมันสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีด้วยสกิลที่มันมีอยู่ และในจังหวะที่ต้องปะทะกัน เราก็จะดึงฮีโร่ตัวบางๆของศัตรูออกมาซัก 1 ตัวและฆ่าเพื่อสร้างความได้เปรียบเรื่องของจำนวนฮีโร่ให้กับทีม การที่จะเล่นฮีโร่ตัวนี้ให้โหดได้นั้นต้องไปหัดใช้สกิล Meat Hookมาให้แม่นๆถ้าใช้จนแม่นแล้ว ใช้โดนเกือบทุกครั้งรับรองว่าโหดแน่นอนครับ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้ออยๆของ Hero Dota ที่ชื่อ Butcher

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ